สถานที่ท่องเที่ยวในสิงคโปร์ ที่แนะนำว่าต้องไป

สถานที่ท่องเที่ยวในสิงคโปร์ที่น่าสนใจและแนะนำว่าต้องไป


ALT NAME

รูปปั้นสิงโตทะเล พ่นน้ำ Merlion สัญลักษณ์ ของประเทศสิงคโปร์

     Merlion(เมอร์ไลอ้อน) ถูกสร้างและออกแบบขึ้นเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์เพื่อการท่องเที่ยว ต่อมาได้กลายเป็นเครื่องหมายของเมืองสิงคโปร์ไปโดยปริยายหากใครได้มาเที่ยวสิงคโปร์แล้ว ไมได้ไปถ่ายรูปคู่เมอร์ไลอ้อน ละก็ แสดงว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์ค่ะ สิงคโปร์ก็คือสิงโตทะเล และสิงโตทะเลก็คือสิงคโปร์ แต่เดิมมีชื่อว่า "สิงกะปุระ(Singapura)" มีความหมายว่า "เมืองสิงโต" หรือ " เกาะสิงโต " ่ค่ะ สิงโตทะเล (Merlion) ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board - STB) ในปี 1964 – รูปปั้นนี้มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น แต่เดิมรูปปั้นนี้ตั้งอยู่ที่สวนสิงโตทะเล (Merlion Park) ข้างๆสะพานเอสพลาเนด (Esplanade Bridge) แม่สิงโตและลูกสิงโตได้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว มีการจัดพิธีติดตั้งสิงโตทะเลในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ.1972 โดยมีประธานในพิธีคือนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ณ เวลาดังกล่าว ซึ่งก็คือ นายลีกวนยู

    ปัจจุบัน รูปปั้นสิงโตทะเลได้บ้านใหม่ซึ่งอยู่ห่างไปจากที่เดิมเป็นระยะทาง 120 เมตร ติดกับ One Fullerton สิงโตหางปลา มีความสูง 8.6 เมตร มีน้ำหนัก 70 ตัน ทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ โดยช่างฝีมือชาวสิงคโปร์ ผู้เสียชีวิตไปแล้ว คือ นายลิมนังเซ็ง ในบริเวณเดียวกันก็จะมีรูปปั้นสิงโตทะเลตัวที่สองจะมีขนาดเล็กกว่า ขนาดสูง 2 เมตรและหนัก 3 ตัน ก็ถูกสร้างขึ้นโดยนายลิมเช่นกันค่ะ ตัวสิงโตหางปลาตัวที่สองนี้ ทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ ผิวหนังทำจากแผ่นกระเบื้อง และตาทำจากถ้วยชาสีแดงขนาดเล็ก ผู้ ออกแบบคือนายฟราเซอร์ บรูนเนอร์ (Mr Fraser Brunner) เป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแวนคลีฟ หัวรูปปั้นเป็นสิงโตหมายถึง สิงโตที่เจ้าชายซางนิลาอุตามะเคยเห็นตอนที่ พระองค์พบเกาะสิงกะปุระในปี ค.ศ. ที่ 11 ตามบันทึกของชาวมาเลย์ (Malay Annals) ส่วนหางที่เป็นปลาคือสัญลักษณ์ของเมืองโบราณเทมาเซ็ค (หมายความว่า "ทะเล" ในภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งสิงคโปร์ถูกค้นพบมาแล้วก่อนที่เจ้าชายนิลาจะตั้งชื่อเกาะนี้ว่า "สิงกะปุระ" (หมายความว่า "สิงโต" (สิงห์) และ "เมือง" (ปุระ) ในภาษาสันสฤต) นอกจากนี้ยังหมายถึงจุดเริ่มต้นอันต่ำต้อยของสิงคโปร์ที่ในอดีตเคยเป็นหมู่ บ้านชาวประมงมาก่อน

    หากได้มีโอกาสไปเที่ยวละก็ห้ามพลาดนะค่ะ บริเวณใต้สะพานก็จะมีร้านอาหารด้วยค่ะ เนื่องจากบริเวณที่ตั้งMerlion(เมอร์ไลอ้อน) เป็นที่โล่งแจ้ง ควรต้องเตรียมร่ม หรือหมวกไปด้วยนะคะ